ประวัติอาสนวิหารนักบุญอันนานครสวรรค์

   

   ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดประเทศหนึ่ง  ซึ่งชาวตะวันตกที่มาอยู่ในสมัยแรกมีความชื่นชมนิยมชมชอบดินแดนนี้  จนบางที่เรียกว่าเป็นพาราไดซ์  หรือสรวงสวรรค์บนแผ่นดิน  ความอุดมสมบูรณ์ที่ว่านี้มีทั้งในน้ำและบนบกจนพูดกันติดปากว่า  ในน้ำมีปลาในนามีข้าว”  ซึ่งความอุดมสมบูรณ์นี้ยังพอหาได้ในประเทศไทย  แม้ในปัจจุบัน  ถึงแม้ว่าจะมีการทำลายความอุดมสมบูรณ์ไปมากแล้วก็ตาม

   ที่ไหนมีความอุดมสมบูรณ์  มีที่ดินดี  น้ำดีที่นั่นย่อมมีคนอาศัย  อพยพกันมาตั้งหลักแหล่งทำมาหากิน  ดังนั้นดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง  ที่มีผลมาจากการบรรจบของแม่น้ำสองสายคือแม่น้ำน่านกับแม่น้
ปิงท้ายเกาะยม อ.เมือง  จ.นครสวรรค์  ชาวบ้านเรียกว่า “ปากน้ำโพ”  หรือ  “ปากน้ำโผล่”  ซึ่งเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาไหลลงมาทางใต้  ดินแดนนี้จึงเป็นที่รวมผู้คนทุกสารทิศเพื่อมาสร้างบ้านทำมาหากิน

  ในจำนวนนี้ก็มีคริสตชนจากวัดเกาะใหญ่ บ้านแป้ง  บางขาม  รวมอยู่ด้วย  ซึ่งในตอนแรกคงมีไม่มากนักมาตั้งบ้านทำการประมงจับปลาน้ำจืดแถบบึงบอรเพ็ดและแถบต้นแม่น้ำเจ้าพระยา  ที่เรียกว่าปากน้ำโพหรือปากน้ำโผล่  นี้เอง  ซึ่งเป็นดินแดนที่มีประวัติของกลุ่มคริสตชน

-  คุณพ่ออีฟ  มารีแก็งตริก   เจ้าอาวาสคนแรก
            สำหรับคริสตชนคนแรกที่ย้ายมาอยู่ที่ปากน้ำโพคนแรกนั้นไม่มีใครบันทึกไว้  และไม่มีบันทึกเช่นเดียวกันด้วยว่าคนวัดไหนเป็นคนมาก่อนคนวัดอื่น  ที่เรารู้เพียงแต่ว่าได้มีคริสตชนเชื้อสายญวนย้ายมาอยู่ที่ปากน้ำโพกลุ่มหนึ่ง  พอถึงปี ค.ศ. 1888  ในสมัยพระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5 พระคุณเจ้าเวย์  ก็มีคำสั่งให้คุณพ่อเจ้าวัดบ้านแป้ง  คุณพ่ออีฟ  มารี  แก็งตริก  ซึ่งเป็นพ่อเจ้าวัดที่ใกล้ที่สุด  ได้มาเยี่ยมเยียนคริสตชนที่นี่เป็นครั้งแรกแต่ไม่ได้ตั้งบ้านพักหรือวัดอะไรทั้งสิ้น

   พอถึงปี ค.ศ. 1894  หกปีต่อมาการรวมกลุ่มของคริสตชนเข้มแข็งขึ้น  คุณพ่อจึงได้ซื้อที่ดินที่ริมฝั่งต้นแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นที่แม่น้ำปิงและน่านบรรจบกัน  และต่อมาเนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราดมากในฤดูฝน  ทำให้น้ำตัดขาดบริเวณที่ดินนี้กลายเป็นเกาะกลางน้ำ  ซึ่งเรียกกันมาติดปากชาวปากน้ำโพว่า  “เกาะญวน”  และเกาะญวนนี้เองถูกสายน้ำพัดหายไปในที่สุด  แต่ได้มีที่ดินงอกมาอีกครั้งหนึ่งหลัจากได้สร้างเขื่อนภูมิพล  จังหวัดตาก  แต่น่าเสียดายที่ที่ดินผืนนี้ได้ยกให้สาธารณะประโยชน์ไปแล้ว  ในสมัยพระคุณเจ้าหลุยส์  โชแรง

    ในปีต่อมาปี ค.ศ. 1895  คุณพ่อแก็งตริก  ผู้ที่มีความสามารถในการสร้างวัด  (ในประวัติของท่าน  ท่านได้สร้างวัดบ้านแป้งหลังที่สองขึ้นด้วย)  ก็ได้สร้างวัดน้อยที่บนเกาะญวนขึ้นพร้อมกับโรงเรียนขึ้นอีก 2 หลัง  ทั้งหมดทำด้วยไม้  คุณพ่อได้เป็นเจ้าอาวาส 2 วัดคือทั้งบ้านแป้งและปากน้ำโพพร้อมกัน  จนถึงปี  1907  พระก็เรียกท่านกลับไปหาพระองค์  ร่างของท่านถูกฝังไว้ที่วัดอยุธยานับเป็นผู้ที่คริสตชนปากน้ำโพควรคิดถึงท่านมาก ๆ ในฐานะผู้นำคนแรกของพระศาสนจักรปากน้ำโพ